ต้อในตา ลม-เนื้อ-กระจก-หิน

GoHospo

ต้อในตา ลม-เนื้อ-กระจก-หิน

ต้อในตา ลม-เนื้อ-กระจก-หิน | ตรวจตาครั้งสุดท้ายกันเมื่อไหร่เอ่ย?

ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด ไม่ใช่ว่าต้องแก่ถึงเป็นเสมอไป เพื่อน ๆ รู้จักวิธีสังเกตตัวเองหรือยังคะ

วันนี้แอดมินจะมาพูดถึงโรคต้อชนิดต่าง ๆ ว่าแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้สังเกตและดูแลดวงตาตนเองอย่างถูกวิธี หากรู้แล้วจะได้รีบตรวจรักษาเพื่อยืดอายุให้ดวงตาอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน

จริงอยู่ที่ยิ่งสูงวัยมักยิ่งพบปัญหาเรื่องดวงตา แต่จริงๆแล้วมีโอกาสเกิดกับคนอายุน้อยได้ด้วยค่ะ

โรคต้อที่พบบ่อยมี 4 ชนิด ได้แก่

1. โรคต้อลม (Pinguecular) เป็นก้อนสีขาวเหลืองที่อาจเรียบหรือนูนเล็กน้อย ขึ้นอยู่บนเยื่อตาตาขาวใกล้กับตาดำ เกิดจากการสัมผัสสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่ทำให้เยื่อบุตาเกิดการระคายเคือง เช่น ผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซต์ทางไกล การทำงานกลางแดดนาน ๆ ทำงานที่สัมผัสฝุ่น มักทำให้มีอาการเคืองตาง่าย ตาแดง ปวดตา แต่ไม่ทำให้ตามัวหรือตาบอด

2. โรคต้อเนื้อ (Pterygium) เป็นต้อลมที่มีการขยายตัวใหญ่และหนามากขึ้นจนลุกลามเข้าไปในกระจกตาดำ มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมซึ่งมีฐานอยู่ที่ตาขาว และมีส่วนของยอดแหลมยื่นเข้าไปในกระจกตาดำ อาจเกิดได้ทั้งด้านหัวตาและหางตา แต่พบบริเวณด้านหัวตาได้บ่อยกว่า หากเป็นมากอาจลามเข้าถึงกลางกระจกตาและรบกวนการมองเห็นได้ สาเหตุของต้อเนื้อมักเกิดจากดวงตาถูกรังสียูวีในแสงแดดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหลายปี จนทำให้เซลล์เยื่อบุตาขาวสร้างสารประเภทโปรตีนและไขมันขึ้นมามากกว่าปกติ

สำหรับโรคต้อลมหรือต้อเนื้อหากมีขนาดเล็กมักไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา จึงต้องดูแลรักษาให้ดี หลีกเลี่ยงไม่ให้ต้ออักเสบ ดังนั้น การผ่าตัดเพื่อเอาต้อออกจึงไม่มีความจำเป็น อย่างไรก็ตาม หากดูแลไม่ดีและเกิดการอักเสบบ่อย ๆ จะทำให้ต้อขยายขนาดใหญ่ขึ้น และรบกวนการมองเห็น หากต้อมีขนาดใหญ่ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการผ่าตัดลอกต้อออก

3. โรคต้อกระจก (Cataract) เป็นโรคที่เกิดจากเลนส์แก้วตาขุ่น ทำให้ภาพที่มองเห็นมัวคล้ายมีหมอก หรือควันขาว ๆ ตลอดเวลา ส่วนมากมักเกิดจากการเสื่อมสภาพของเลนส์ตาตามอายุที่มากขึ้น ในบางคนก็อาจเป็นตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดหลังมีอุบัติเหตุกับดวงตาก็ได้ หากเป็นมากและไม่รับการรักษาอาจทำให้ตามัวมากขึ้นจนมองไม่เห็นได้

4. #โรคต้อหิน (Glaucoma) เป็นโรคที่เกิดจากความดันในลูกตาสูง เนื่องจากจากการระบายออกของน้ำเลี้ยงในลูกตาเกิดขึ้นได้น้อยกว่าปกติ ทำให้ลูกตามีความแข็งมากขึ้นจนไปกดขั้วประสาทตา (optic disc) ทำให้ลานสายตาเสียหายจนกระทบต่อการมองเห็น และตาบอดสนิทได้ในที่สุด โรคต้อหินเป็นโรคที่หากเกิดขึ้นแล้วมีความรุนแรงควรปรึกษาแพทย์อย่างทันท่วงที

แอดมินแนะนำให้ทุกท่านต้องตรวจดวงตาอย่างสม่ำเสมอค่ะ ห้ามประมาท เพราะคิดว่าตัวเองอายุยังไม่เยอะ

เอกสารอ้างอิง